When preparing your advertisement, you should first define your product's Unique Selling Proposition (USP). |
ขณะที่กำลังเตรียมการโฆษณา อันดับแรกคุณควรที่จะกำหนดจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ของคุณ |
To find the USP, ask yourself "How is this product different?" |
การที่จะหาจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะนั้น คุณควรถามตัวเองว่า "ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีข้อแตกต่างอย่างไร" |
Make a list of your product's pros and cons. |
ทำรายการข้อดีและข้อเสียของผลิตภัณฑ์ของคุณ |
This will help you think about what message you want your ad to send. |
นี่จะสามารถช่วยให้คุณคิดได้ว่าคุณต้องการจะส่งข้อความอะไรผ่านการโฆษณาของคุณ |
Positioning is an attempt to place a product into a certain category in consumers' minds: "the best", for example (best deodorant, best soda, etc.) ("The best" is, however, extremely difficult to establish for a new brand). |
การกำหนดจุดยืนคือการพยายามที่จะจัดอันดับผลิตภัณฑ์นั้นๆให้อยู่ในหมวดหมู่ที่ต้องการในใจของลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น "ดีที่สุด" (ยาระงับกลิ่นที่ดีที่สุด, โซดาที่ดีที่สุด, ฯลฯ) (อย่างไรก็ตาม ("ดีที่สุด) จัดเป็นหมวดหมู่ที่ยากมากที่จะสร้างได้สำหรับแบรนด์สินค้าใหม่ๆ) |
Types of positioning are Against (eg, Hertz vs. Avis, 7-up vs. colas), Niche (a sub-division of a category), New, and Traditional. |
รูปแบบของการกำหนดจุดยืน ได้แก่ แบบปะทะ (เช่น เฮิรตซ์ ปะทะ อาวิส, เซเว่นอัพ ปะทะ โคลา), แบบเฉพาะเจาะจง (แบ่งแยกย่อยจากหมวดหมู่หลัก), แบบใหม่, และแบบดั้งเดิม |
A Brand Character Statement sets the tone for an entire campaign. |
การบอกเล่าเกี่ยวกับคุณลักษณะของแบรนด์เป็นการปูพื้นฐานให้กับการโฆษณาทั้งหมด |
A simple way to start preparing your advertisement is with this statement: "Advertising will ____A_____ ____B_____ that ____C_____ is ____D_____. Support will be ____E_____. Tone will be ____F_____." where A is a verb, B is a target demographic (such as, "girls between 14-18 years old"), C is your product, D is an adjective or phrase. |
วิธีง่ายๆในการเริ่มเตรียมการโฆษณาคือเริ่มจากคำแถลงการณ์นี้:
"การโฆษณาจะ ___A___ ___B___ ว่า ___C___ นั้น ___D___ ตัวประกอบคือ___E___ ลักษณะคือ___F___" เมื่อ A คือกริยา, B คือกลุ่มประชากรเป้าหมาย (เช่น "เด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 14-18 ปี"), C คือผลิตภัณฑ์ของคุณ, D คือคำขยายความหรือข้อความสนับสนุน |
E is what the meat of your ad will be. |
E คือสิ่งที่จะเดินเรื่องประกอบโฆษณาของคุณ |
F is your ad's "attitude". |
F คือลักษณะของโฆษณาของคุณ |
For example, "Advertising will convince artistic types age 18-35 that Apple computers are hip and cool. Support will be two men discussing Macs and PCs. Tone will be humorous." |
ยกตัวอย่างเช่น "การโฆษณาจะโน้มน้าวผู้มีศิลป์อายุระหว่าง 18-35 ปี ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ของแอปเปิ้ลนั้นเท่ห์และทันสมัย ตัวประกอบคือผู้ชายสองคนโต้เถียงกันเกี่ยวกับแอปเปิ้ลแม๊คและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ลักษณะคือตลกขบขัน" |
Part B of this strategy statement is the target audience. |
ส่วนที่สองในกลยุทธ์การโฆษณานี้คือกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย |
Advertisers use many methods to gain information about this group, including demographics, psychographics (how the target thinks), and focus groups. |
ผู้ลงโฆษณาใข้หลากหลายวิธีในการเก็บเกี่ยวข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย การแบ่งตามลักษณะประชากร, การแบ่งตาลักษณะจิตนิสัย (กลุ่มเป้าหมายมีความคิดอย่างไร), และการสนทนากลุ่ม |
Part C is the product itself. |
ส่วนที่สามคือตัวผลิตภัณฑ์ |
Advertisers spend time studying this as well. |
ผู้ลงโฆษณาต้องใช้เวลาในการศึกษาถึงข้อนี้เช่นกัน |
Important questions to ask are "Why would anybody buy this?" "What's the product's advantage?" and "What is the client's image?" |
คำถามที่สำคัญที่ต้องถามคือ "ทำไมคนถึงจะซื้อผลิตภัณฑ์นี้" "ข้อดีของผลิตภัณฑ์นี้คืออะไร" และ "ภาพลักษณ์ของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์คืออะไร" |
The last one is important to consider in order to make sure that your ad doesn't jar with the public perception the company has created for itself. |
คำถามข้อสุดท้ายคือสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาของคุณจะไม่ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ในสังคมที่ทางบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ได้สร้างไว้เดิม |
For example, hip or edgy ads probably won't go over well with a company that has a public image of being "conservative" and/or "family friendly." |
ตัวอย่างเช่น ลักษณะการโฆษณาแบบทันสมัยหรือแบบสื่ออารมณ์ฉุนเฉียว อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากบริษัทที่มีภาพลักษณ์เป็น "อนุรักษ์นิยม" และ/หรือ "มิตรภาพภายในครอบครัว" |